Apple เปิดตัว Apple TV 4K เจเนอเรชั่นถัดไปที่ทรงพลัง
วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัว Apple TV 4K เจเนอเรชั่นถัดไปที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ให้ความบันเทิงครบครัน และมาในราคาสบายกระเป๋ากว่าเดิม อีกทั้งยังมาพร้อมคุณภาพระดับภาพยนตร์ที่สวยสะกดสายตา Apple TV 4K ใหม่ขับเคลื่อนด้วยชิป A15 Bionic ที่ทำงานได้เร็วขึ้นและเล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น จึงเป็นแหล่งรวมความบันเทิงหลากหลายประเภทให้ทุกคนได้เลือกเพลิดเพลินผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ในบ้าน การรองรับ HDR10+ ร่วมกับ Dolby Vision บน Apple TV 4K ทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมภาพยนตร์และรายการทีวีเรื่องโปรดได้คมชัดกว่าบนทีวีเครื่องอื่นๆ1 Apple TV 4K ใช้งาน tvOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ทรงพลังและใช้งานง่ายเหมาะกับห้องนั่งเล่น และมาพร้อม Apple TV Remote ยอดนิยม ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาและเพลิดเพลินกับคอนเทนต์โปรดได้ง่ายยิ่งขึ้น การทำงานร่วมกับอุปกรณ์และบริการอื่นๆ ของ Apple อย่างราบรื่นจะพลิกโฉมประสบการณ์ในห้องนั่งเล่นของทั้งครอบครัวให้แตกต่างไปจากเดิมอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะที่สะดวกสบาย
Apple TV 4K ใหม่มีให้เลือกสองแบบ ได้แก่ Apple TV 4K (Wi-Fi) ที่มาพร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 64GB และ Apple TV 4K (Wi-Fi + Ethernet) ที่รองรับ Gigabit Ethernet เพื่อการเชื่อมต่อเครือข่ายและการสตรีมที่รวดเร็ว, โปรโตคอลระบบเครือข่ายแบบตาข่ายของ Thread ที่ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมสำหรับบ้านอัจฉริยะได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับแอปและเกมที่เพิ่มขึ้นสองเท่า (128GB) ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ Apple TV 4K รุ่นใหม่พร้อม Apple TV Remote ได้ตั้งแต่วันนี้ในราคาเริ่มต้นใหม่เพียง 5,290 บาท
"Apple TV 4K คือสุดยอดทีวีที่ให้ผู้ใช้ Apple ได้เพลิดเพลินกับความบันเทิงที่ตัวเองชื่นชอบบนหน้าจอขนาดใหญ่ที่บ้าน และรุ่นใหม่นี้ยังทรงพลังกว่าที่เคยอีกด้วย" Bob Borchers รองประธานฝ่าย Worldwide Product Marketing ของ Apple กล่าว "Apple TV 4K รุ่นใหม่แตกต่างจากทีวีทั่วไป เพราะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น ใช้งานง่าย ให้ผู้ใช้เข้าถึงคอนเทนต์ Apple ที่ยอดเยี่ยม และยังมีทุกอย่างที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องชอบ"การทำงานร่วมกับระบบนิเวศของ Apple อย่างราบรื่น
Apple TV 4K ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่กระบวนการตั้งค่าด้วย iPhone ไปจนถึงการควบคุมด้วย Apple TV Remote ในศูนย์ควบคุมได้ตลอดเวลา ซึ่งทำได้ง่ายอย่างน่าอัศจรรย์ Apple TV 4K ผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ ของ Apple จึงสามารถมอบประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ผ่านการนำระบบนิเวศของ Apple ที่ยอดเยี่ยมที่สุดมาสู่ห้องนั่งเล่น4
Apple Music มีแคตตาล็อกเพลงให้เลือกฟังกว่า 100 ล้านรายการ รวมถึงเพลย์ลิสต์ที่คัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญ และวิดีโอเพลงต่างๆ ให้ชมบน Apple TV 4K นอกจากนี้ Apple Music ขอมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีที่สุดในโลก ด้วยคอนเทนต์ต้นฉบับจากผู้คนอันเป็นที่รักและนับถือในแวดวงดนตรี, Autoplay, เนื้อร้องที่ซิงค์กับเวลา, เสียงแบบ Lossless และระบบเสียงตามตำแหน่งพร้อม Dolby Atmos ที่ให้เสียงที่เต็มอิ่มสมจริง
Apple TV+ คือแหล่งรวมซีรีส์ดราม่าและคอมเมดี้ระดับพรีเมียม ภาพยนตร์ สารคดี และรายการบันเทิงสำหรับเด็กและครอบครัว เช่น “Ted Lasso” ที่ทำลายสถิติและได้รางวัล Emmy Award, ซีรีส์ดราม่ายอดฮิต “Severance”, “Shantaram” ที่สร้างจากนิยายขายดี รวมถึง “Bad Sisters,” “Mythic Quest,” “Pachinko” และซีรีส์อื่นๆ อีกมากมายที่ได้รับเสียงชื่นชม นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์มากมายให้รับชมอีกด้วย เช่น สารคดี “Sidney” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ Sidney Poitier ผู้เป็นตำนาน, “Causeway” ที่นำแสดงและอำนวยการสร้างโดย Jennifer Lawrence นักแสดงเจ้าของรางวัล Academy Award และภาพยนตร์ฉลองเทศกาลอย่าง “Spirited” ที่นำแสดงโดย Will Ferrell, Ryan Reynolds และ Octavia Spencer นอกจากนี้ Apple TV+ ยังมีการถ่ายทอดสดกีฬาอย่างการแข่งขัน Major League Soccer ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2023
Apple Arcade บน Apple TV 4K มีเกมระดับพรีเมียมที่ชนะรางวัลมากมาย โดยจะมีเกมใหม่ๆ และการอัปเดตคอนเทนต์หลักเพิ่มเข้ามาทุกสัปดาห์ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทั้งหมดนี้ได้โดยไม่ต้องดูโฆษณาและไม่ต้องซื้อสินค้าในแอป ผู้เล่นสามารถจับคู่กับตัวควบคุมเกมยอดนิยมเพื่อเล่นเกมชื่อดังอย่าง “NBA 2K23 Arcade Edition” และ “Jetpack Joyride 2” รวมถึงเกมยอดนิยมตลอดกาลอย่าง “Sneaky Sasquatch” และ “Warped Kart Racers” ที่มาพร้อมโหมดผู้เล่นหลายคนใหม่
Apple Fitness+ is an award-winning fitness and wellness service designed to be welcoming to all users, wherever they are on their journey, and help them live a healthier day. Apple TV 4K users can enjoy the largest library of workout content in 4K Ultra High Definition with over 3,000 studio-style workouts and meditations, all led by a diverse and inclusive team of trainers. This fall, iPhone users can subscribe to and enjoy Fitness+ in the 21 countries and regions where it is available, even if they don’t have an Apple Watch. Users only need an iPhone to sign up, and can then experience Fitness+ on Apple TV, iPhone, and iPad with onscreen trainer guidance and interval timing, and estimated calories burned will be used to make progress on their Move ring. Fitness+ users with Apple Watch can take their motivation to the next level with personalized real-time metrics that display on Apple TV, iPhone, and iPad.